จุดเด่นการประยุกต์ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
จากการศึกษาระดับความเป็นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงขององค์การบริหารส่วนตำบลนากอก พบว่า อยู่ในระดับ “เข้าถึง” (ดังตารางที่ 1) เป็น “องค์กรแห่งประโยชน์สุข” โดยการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในองค์กร และนำไปสู่การสร้างประโยชน์สุขต่อประชาชนในที่สุดนั้น พบว่าองค์การบริหารส่วนตำบลนากอก มีจุดแข็งและความโดดเด่นในการบริหารเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ดังนี้
3.1 ด้านการบริหารองค์กร
ด้านการบริหารองค์กร องค์การบริหารส่วนตำบลนากอก มีจุดแข็งที่สำคัญคือ บุคลากรมีความรู้ความสามารถ มีวัฒนธรรมองค์กรที่สามัคคีกันจึงเอื้อประโยชน์ต่อการทำงานเพื่อส่วนรวม ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากผู้นำที่มีความกระตือรือร้นและเป็นแบบอย่างที่ดีในการทำงาน ผนวกกับการที่ผู้นำมีวาระการทำงานที่ต่อเนื่อง ทำให้การทำงานตามนโยบายต่าง ๆ ถูกขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน ด้านการบริหารงานองค์กร ได้ตระหนักและให้ความสำคัญของการทำงานแบบมีส่วนร่วมทั้ง 4 ฝ่าย (ฝ่ายบริหาร ฝ่ายสภา ฝ่ายข้าราชการ และภาคประชาชน) โดยประชาชนจะช่วยกันคัดเลือกตัวแทนเข้ามาเป็นคณะกรรมการและเข้าร่วมการจัดเวทีประชาคมทุกหมู่บ้าน เพื่อให้แต่ละหมู่บ้านคัดเลือกโครงการที่เห็นว่ามีความจำเป็นเสนอเพื่อเข้าสู่แผนพัฒนาท้องถิ่น ต่อด้วยการจัดทำแผน/ข้อบัญญัติ ผ่านการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ทำให้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แต่ละหมู่บ้านได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด ส่วนแผนพัฒนาและข้อบัญญัติที่เกิดขึ้นก็จะประกาศให้สาธารณะได้ทราบล่วงหน้า ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้ 1) website ขององค์การบริหารส่วนตำบลนากอก www.nakoksao.go.th 2) facebook.com/องค์การบริหารส่วนตำบลนากอก 3) กลุ่มไลน์ (Line) ที่ประกอบไปตัวฝ่ายบริหาร ฝ่ายสภา ฝ่ายข้าราชการ ตัวแทนประชาชน และ 4) ป้ายปิดประกาศประชาสัมพันธ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลนากอก และปิดประกาศในศาลาประชาคมของทุกหมู่บ้าน เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึง
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าภายในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา องค์การบริหารส่วนตำบลนากอกจะไม่มีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องการป้องกันการทุจริตในองค์กร แต่กลไกการบริหารองค์กรแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนก็ทำให้เกิดความสำเร็จที่มาพร้อมกับการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุด อย่างรวดเร็ว และทั่วถึง คือ วัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญต่อการทำงานเพื่อประชาชน และการทำงานร่วมกับภาคประชาชนทำให้การบริหารงานขององค์กรเกิดความโปรงใส ตรวจสอบได้ การใช้จ่ายงบประมาณที่คุ้มค่าตามหลักการในปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งประกอบสร้างสำคัญต่อความสำเร็จที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ ในพื้นที่ของสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลนากอกบางส่วน กองสวัสดิการสังคม และนักวิชาการเกษตร ได้ดำเนินการปรับพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์สำหรับการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยการจัดตั้งศูนย์เกษตรพอเพียงขององค์การบริหารส่วนตำบลนากอก เพื่อปลูกผักปลอดสารพิษสำหรับบริโภคภายในหน่วยงานเป็นหนึ่งในสวัสดิการที่องค์กรได้จัดขึ้น และเป็นแหล่งศึกษาดูงานของผู้ที่สนใจอีกด้วย
3.2 ด้านการพัฒนาอาชีพตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ด้านการพัฒนาอาชีพตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง องค์การบริหารส่วนตำบลนากอกได้ส่งเสริมให้ทุกหมู่บ้าน รวมกลุ่มกันเพื่อจัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ตามกลุ่มอาชีพที่สมาชิกในชุมชนต้องการสอดคล้องกับศักยภาพของกลุ่ม และได้ผลักดันให้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน 23 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มผลิตถั่วเหลืองฤดูแล้งบ้านโนนสำราญ (2) กลุ่มผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวชุมชนนากอก (3) กลุ่มโคเนื้อคุณภาพตำบลนากอก (4) กลุ่มผลิตพืชผลการเกษตรบ้านหนองผือ (5) กลุ่มเกษตรก้าวหน้าบ้านห้วยบ่อทอง (6) กลุ่มสภาชุมชนการเกษตรบ้านกุดดุก-สุขเกษม (7) กลุ่มสภาชุมชนการเกษตรบ้านโคกสนั่น (8) กลุ่มสภาชุมชนการเกษตรบ้านหนองผือ (9) กลุ่มทอผ้าบ้านกุดดุก (10) กลุ่มทอผ้าบ้านสุขเกษม (11) กลุ่มข้าวฮางบ้านโคกม่วง (12) กลุ่มผู้ปลูกยางพาราและพืชไร่บ้านห้วยบ่อทอง (13) กลุ่มจักสานบ้านนากอก (14) กลุ่มราชินีข้าวเหนียวบ้านโนนสำราญ (15) กลุ่มเลี้ยงแพะโนนงาม-โนนเกษม (16) กลุ่มเลี้ยงโคเนื้อโคกล่าม (17) กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียงห้วยบักด้ง (18) กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษบ้านสมสนุก (19) กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านม่วงทอง (20) กลุ่มปุ๋ยหมักบ้านโนนสำราญ (21) กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านโนนสำราญ (22) กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกพืชบ้านโนนสำราญ และ (23) กลุ่มเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาวังไฮ
โดยองค์การบริหารส่วนตำบลนากอกได้ให้การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้งการสนับสนุนด้านองค์ความรู้ทั้งการผลิต การจัดการกลุ่ม การจำหน่ายสินค้า ด้วยการประสานงานไปยังเครือข่ายผ่านโครงการและการจัดนิทรรศการเพื่อแสดงสินค้าต่าง ๆ ทั้งในระดับตำบล อำเภอ จังหวัด และภูมิภาค เพื่อส่งเสริมช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้หลากหลายมากขึ้น ทำให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เกิดขึ้นนั้น ได้ก่อประโยชน์ให้กับส่วนต่าง ๆ ดังนี้ 1) สมาชิกในกลุ่มมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการ 2) สมาชิกในชุมชนบางส่วน สามารถนำวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจมาจำหน่ายให้กับกลุ่มวิสาหกิจได้ 3) สมาชิกในกลุ่ม และสมาชิกในชุมชน มีสินค้าและบริการที่ผลิตจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนใช้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้สามารถลดรายจ่ายในครัวเรือนลง และ 4) ตำบลนากอก มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมเพิ่มมากขึ้น
3.3 ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
ปัญหายาเสพติด เป็นปัญหาสำคัญที่ตำบลนากอกได้เผชิญอยู่ในขณะนี้ โดยเฉพาะปัญหายาเสพติดที่แพร่ระบาดกับกลุ่มเยาวชน ทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายที่องค์การบริหารส่วนตำบล
นากอกให้ความสำคัญ เพื่อให้เป็นพื้นที่ปลอดยาเสพติด ลดปัญหาอาชญากรรม โดยการรักษาความปลอดภัยในระดับหมู่บ้าน เพราะองค์การบริหารส่วนตำบลนากอกได้ตระหนักว่า การป้องกันและการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นพันธกิจอันยิ่งใหญ่ที่ทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน จะต้องร่วมด้วยช่วยกันในการแก้ไขปัญหาแบบพหุภาคี ที่มุ่งเน้นการป้องกันและปราบปรามควบคู่กัน โดยจะต้องมีการประสานการทำงานแบบบูรณาการ นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลนากอก ยังได้เข้าร่วม “โครงการ TO BE NUMBER ONE” และจัดการแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดเป็นประจำทุกปี โดยทั้งสองโครงการจัดขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนหันมาสนใจการเล่นกีฬา และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เพื่อห่างไกลจากยาเสพติด โดยได้รับความร่วมมือจากประชาชนและเยาวชนในตำบลนากอกเป็นอย่างดี ทำให้ประชาชนและเยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดจิตสำนึกที่ดี รู้เท่าทันปัญหายาเสพติด และสนใจการเล่นกีฬามากขึ้น นอกจากนี้ องค์การบริหารส่วนตำบลนากอกยังได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดประจำตำบลนากอก เพื่อประสานการปฏิบัติงานระหว่างจังหวัด อำเภอ เพื่อให้การปฏิบัติการในการแก้ไขปัญหาบูรณาการมากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับกลุ่มเยาวชนแล้ว องค์การบริหารส่วนตำบลนากอกยังได้ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยมองว่าผู้สูงอายุเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยเฉพาะคุณูปการที่ผู้สูงอายุได้ร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองพัฒนาท้องถิ่นตำบลนากอกมาในอดีต ดังนั้น องค์การบริหารส่วนตำบลนากอก จึงได้จัดตั้ง “โรงเรียนผู้สูงอายุตำบลนากอก” ขึ้น เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้สูงอายุได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และฝึกทักษะอาชีพให้กับผู้สูงอายุในการประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ในครัวเรือน ซึ่งนอกเหนือจะนำมาใช้ในครัวเรือนแล้ว บางส่วนยังสามารถนำไปจำหน่ายเพื่อสร้างรายได้ตามวิถีแห่งความพอเพียงได้อีกด้วย